จาก CSR สู่ ESG / SDG

📗หนังสือ​ "CSR​ การสร้างธุรกิจด้วยพลังวิสัยทัศน์"(Visionary Business An Entrepreneur 's Guide to Success 2007) เขียนโดยมาร์ก​ อัลเลน​ ปี 2007 แปลโดย​ไพโรจน์​ ภูมิประดิษฐ์​

👉มาร์ก​ อัลเลน​ เขียนเรื่องนี้จากประสบการณ์​ของเขาเอง​ ในฐานะผู้ก่อตั้ง​ (ร่วมกับชาคติ​ กาเวน​ (Shakti.Gawain). และเป็นประธานของ​นิวเวิลด์​ ไลบรารี​ (New world Library) ซึ่งจัดพิมพ์หนังสือและสื่อหลากหลายรูปแบบ​ ที่สร้างแรงบันดาลใจและท้าทายผู้คน​ ให้หันมาปรับปรุงคุณภาพชีวิตและโลกให้ดีขึ้น​ เขาได้นำพาบริษัทเล็กๆที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง​ จากการไม่มีเงินทุนเลย​ จนเติบใหญ่กระทั่งเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในวงการพิมพ์​ของโลก

📗เป็นหนังสือ​ CSR.อีกเล่มหนึ่งที่ผมชอบมาก​ เพราะผู้เขียนชี้ให้เห็นถึงปรัชญา​ธุรกิจทางเลือกที่นำเสนอในรูปแบบของเรื่องเล่า​ เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก​ มองไกลถึงอนาคตระยะยาวของธุรกิจ​ มองกว้างถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม​ มองลึกถึงด้านจิตวิญญาณ​ ดังข้อความตอนหนึ่งในหนังสือ

👉กุญแจหมายเลข​ 7​ เป็นฝ่ายให้อย่างเต็มที่​ และเก็บเกี่ยวรางวัลผลตอบแทน

1.ในฐานะเจ้าของธุรกิจ​ คุณมีความรับผิดชอบต่อพนักงาน​ ชุมชน​ และสิ่งแวดล้อมของคุณ

2.ในระยะยาวการช่วยเหลือพนักงาน​ และช่วยเยียวยา

สิ่งแวดล้อมมีผลดีต่อธุรกิจ​ เป็นผลดีต่อกำไรสุทธิ​ ถ้าคุณไม่สามารถทำธุรกิจโดยปราศจากการขูดรีดคนหรือทำลายโลกใบนี้​ คุณก็ไม่ควรทำธุรกิจ​ตั้งแต่แรกแล้ว​

3.แบ่งเปอร์เซ็นต์​จากกำไรของคุณให้องค์กรที่ทำงานเพื่อปรับปรุงโลก​ ผลจะย้อนกลับมาหาคุณหลายทาง

4.คุณภาพชีวิตของเราสำคัญยิ่งกว่าจำนวนเงินที่เราหาได้​ ไม่มีคุณค่าอะไรเลยในการสั่งสมเงินมากมาย​ การให้ย่อมดีกว่ามาก​ บริษัทและนักธุรกิจสามารถทำอะไรได้อีกมากเพื่อช่วยคนและเยียวยาสิ่งแวดล้อม

5.ธุรกิจและสัมพันธภาพที่ประสบความสำเร็จโดยทั่วไปมีรากฐานมาจากการให้บริการผู้อื่น​ คุณจะไปถึงเป้าหมายของคุณได้ก็โดยการรับใช้ผู้อื่นให้ดีที่สุด​ และโดยการช่วยผู้อื่นให้บรรลุเป้าหมายของพวกเขา

6. เงินมิใช่เกณฑ์สุดท้ายที่ใช้วัดค่าของคน​ ยังมีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้น​ เช่น​ คุณภาพชีวิต​ วิธีการที่คุณปฎิบัติต่อผู้อื่น​

การปฎิบัติต่อสิ่งแวดล้อม​ การให้บริการผู้อื่น​ ความรัก​ ความกรุณา​ที่คุณมีให้ผู้อื่น​ จุดมุ่งหมายในชีวิตของคุณ​ และระดับความสำเร็จที่คุณไปถึง​ การเกื้อหนุนผู้อื่นและโลกของคุณ

7.คำพูดที่สำคัญที่สุดควรจำและพยายามปฎิบัติทั้งในธุรกิจและชีวิตโดยทั่วไป​ คือ​ ความรัก​ ความกรุณา​ ความอดกลั้น​ และความมีน้ำใจ​ เพื่อตัวคุณเองและคนอื่น

📗บทสรุป หลักการและแนวทางปฎิบัติ 13 ประการของ CSR การสร้างธุรกิจด้วยพลังวิสัยทัศน์

1. ทุกบริษัทจำเป็นต้องมีแผนธุรกิจที่เขียนอย่างดีมีความหนักแน่น แสดงเส้นทางเดินที่ชัดเจน สำหรับปีต่อไป ฉายภาพระยะไกล หรือวิสัยทัศน์ของธุรกิจในระยะห้าปี

โดยเริ่มจากการบรรยายความ แล้วตามด้วยตัวเลข แผนซึ่งเขียนไว้อย่างดีคือแผนที่ของคุณ เป็นภาพอนาคตของคุณ

2. แผนธุรกิจควรเริ่มต้นด้วยถ้อยคำแถลงภารกิจที่สั้นรัดกุม เขียนในเชิงอุดมคติและมีความยิ่งใหญ่

3. ก่อนเขียนแผนธุรกิจ จงทำกระบวนการกำหนด ภาพในอุดมคติ สมมติว่าเวลาห้าปีผ่านไป ธุรกิจของคุณพบกับความสำเร็จที่สดใสเท่าที่คุณสามารถจินตนาการได้ ถึงตอนนั้นคุณอยากทำอะไร อะไรคือ ภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด ของคุณ คุณต้องการมีชีวิตแบบใด จงเขียนความคิดของคุณออกมา แล้วนำไปเปรียบเทียบกับของผู้อื่นที่มีส่วนร่วมในธุรกิจ

4. ทุกธุรกิจที่ประสบความสำเร็จล้วนมีพื้นฐานมาจากวิสัยทัศน์ทั้งสิ้น บางคนได้จินตนาการถึงการเติบโตและพัฒนาการของธุรกิจนั้นไว้ชัดเจนแล้วก่อนหน้าที่การเติบโตของธุรกิจจะเกิดขึ้นจริง มุ่งมองวิสัยทัศน์แห่งความสำเร็จอยู่เสมอ แล้วคุณจะจัดสรรวางกำลังอย่างที่คุณต้องการเพื่อทำให้เกิดความสำเร็จ

5. คุณต้องมีจุดมุ่งหมายที่สูงส่งกว่าการทำเงินจากธุรกิจ เมื่อคุณมีจุดมุ่งหมายที่สูงกว่า คุณก็จะนำสรรพกำลังที่อยู่เบื้องหลังคุณออกมาสนับสนุนตนเองไปสู่เป้าหมาย เงินมีความสำคัญในธุรกิจแต่เป็นเรื่องรอง เราแต่ละคนย่อมมีจุดมุ่งหมายเฉพาะในชีวิต มีความถนัดพิเศษและความสามารถเฉพาะตัวที่จะบรรลุจุดมุ่งหมายนั้น เราควรใช้เวลาให้มากตามความจำเป็น เพื่อค้นให้พบจุดมุ่งหมายและมีชีวิตอยู่กับจุดมุ่งหมายนั้น แล้วเมื่อนั้นแหละ ที่ชีวิตจะได้รับการเติมเต็ม

6. ในทุกภาวะที่ยากลำบาก มีผลประโยชน์ที่เท่ากันหรือมากกว่า นี่คือกุญแจสู่ธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ ชีวิตย่อมเต็มไปด้วยปัญหา แต่มันก็เต็มไปด้วยโอกาสเช่นกัน

7. ความรับผิดชอบมาพร้อมกับความเป็นเจ้าของ เจ้าของธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สังคม สิ่งแวดล้อม ถ้าคุณไม่สามารถบริหารธุรกิจได้โดยปราศจากการขูดรีดคน เอาเปรียบสังคม หรือก่อมลภาวะให้โลกแล้ว คุณก็ไม่ควรเข้ามาทำธุรกิจตั้งแต่แรก

8. แบ่งผลกำไรของคุณให้บุคคลและองค์กรที่ทำงานเพื่อให้โลกนี้ดีขึ้น ถ้าทุกธุรกิจที่มีกำไรในโลกนี้แบ่งกำไรเพียงห้าเปอร์เซ็นต์แก่องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรซึ่งทำงานช่วยเหลือผู้คนและสิ่งแวดล้อม เราจะสามารถยุติความอดอยากได้ทั่วโลก มีบ้านให้คนไร้ที่อยู่ และทำความสะอาดโลกนี้ได้ทั้งใบ

9. เงินมิใช่เกณฑ์สุดท้ายในคุณค่าของคน มีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นอีกมาก เช่น คุณภาพชีวิตที่เราดำเนินอยู่ วิธีการที่เราปฎิบัติต่อผู้อื่น ต่อสังคม สิ่งแวดล้อม บริการที่เราให้แก่ผู้อื่น ปริมาณความรักความกรุณาที่เรามีให้ผู้อื่น จุดมุ่งหมายในชีวิตของเราและระดับที่เราสามารถไปถึง การทำประโยชน์ให้ผู้อื่นและโลกของเรา สิ่งต่างๆเหล่านี้มีความสำคัญอย่างแท้จริงในชีวิต เกณฑ์เหล่านี้เท่านั้นที่สามารถใช้วัดความสำเร็จของบุคคลได้อย่างมีนัยสำคัญ

10. ทุกธุรกิจเป็นภาพสะท้อนจิตสำนึกของเจ้าของ เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่เราจะต้องใคร่ครวญถึงเหตุการณ์ที่กำหนดรูปชีวิตเรา และค้นให้พบความเชื่อหลักที่เราสร้างมาให้ตัวเองจากเหตุการณ์เหล่านั้น เมื่อเราระบุชี้ความเชื่อในทางลบของเราได้แล้ว ก็จงปล่อยวาง เพราะมันไม่ใช่ความจริง มันเป็นเพียงแค่การเป็นไปตามที่คิด มันจะเป็นความจริงหากเราเชื่อมัน ที่ดีกว่านั้นมากนักคือการฟูมฟักความเชื่อในทางบวกที่สนับสนุนอัจฉริยภาพภายในตัวเราทุกคน คุณมีความสามารถทำอะไรก็ได้ ไม่มีขีดจำกัดความสำเร็จของคุณ ถ้าคุณเชื่อว่ามันเป็นความจริง

11. ยิ่งคุณให้มากเท่าใด คุณก็ยิ่งได้รับมากเท่านั้น และไม่เพียงแต่ด้านการเงินเท่านั้น คุณจะได้รับสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นอีก เช่น ความพึงพอใจ ความรู้สึกเติมเต็ม ความเบิกบาน ความรัก ความเชื่อถือ

12. ด้วยเงิน ความเข้าใจ และภาวะสร้างสรรค์ที่เพียงพอ จะสามารถแก้ไขปัญหาทุกปัญหาสำคัญที่โลกกำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ได้ เงินมีอยู่ไม่จำกัด ถ้าเรารู้วิธีการจัดการมัน ดังนั้น ทั้งหมดที่เราขาด คือความเข้าใจและภาวะสร้างสรรค์ ทั้งหมดที่เราขาด คือ วิสัยทัศน์

วิสัยทัศน์ของคนหนึ่งคนสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ สิ่งนี้มีการพิสูจน์มาแล้วในอดีต เวลานี้มีพวกเขามากกว่าหนึ่งคนที่กำลังสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการครั้งใหม่ขึ้นในโลก

ยุคสมัยแห่งสันติภาพและความรุ่งเรืองสำหรับทุกคน จุดมุ่งหมายสูงสุดของธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์มิใช่การหาเงิน แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโลกด้วยนวัตกรรม โดยการทำในสิ่งที่เรารัก ทำในสิ่งที่เรามาอยู่ ณ ที่นี้พึงจะทำ ไม่ว่าสิ่งนั้นคืออะไร

13. จงเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจอยู่เสมอ จากทุกคนและทุกสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ จงสร้างคุณค่าจากธุรกิจของคุณให้สังคม จงสร้างนวัตกรรมในธุรกิจของคุณให้ใหม่เสมอ ธุรกิจเป็นกระบวนการที่ไม่เคยสิ้นสุด จงฉลองความสำเร็จของคุณ และความสำเร็จของผู้อื่นด้วยเช่นกัน การเป็นปรปักษ์และการแข่งขันในทางลบใดๆก็ตาม ต้องไม่มีอยู่ในโลกของคุณ

จงทำตามความสบายใจของคุณ ทำสิ่งที่คุณรัก ทำงานด้วยความรัก อยู่ด้วยความรัก แบ่งปันความรัก และสร้างคุณค่าร่วมให้กับพนักงาน ชุมชน สังคม และโลกใบนี้ แล้วคุณจะสร้างธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ในวิถีที่เป็นแบบฉบับของคุณที่ยั่งยืนได้

CSR การสร้างธุรกิจด้วยพลังวิสัยทัศน์

( มาร์ก อัลเลน เขียน / ไพโรจน์ ภูมิประดิษฐ์ แปล ) สรุปโดย ดร.วรวุฒิ ไชยศร

❇️นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

ไม่มีแสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญา

ดร.วรวุฒิ ไชยศร

#วิทยากรมืออาชีพ

ด้าน Corporate Sustainability Management ( CSSRM )

ESG Professional & SDG Impact Management

Design Thinking for Sustainable Business

Social Innovation & Sustainability Leadership

#ผู้ช่วยผู้อำนวยการหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง ( มส.)

#นายกสมาคมส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

#อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต

#กรรมการสมาคมผู้ประเมินมูลค่าทางสังคมไทย

#line @csrhouse

https://lin.ee/3mE4bBl

#CSR House https://www.facebook.com/CSRHouse?mibextid=LQQJ4d