👉ทำไมเรื่องที่พูดไว้ในรายการ CSR Talk & CSR Story จึงเป็นเรื่องสำคัญ?
❇️ห่วงโซ่คุณค่าสำหรับธุรกิจที่ยั่งยืนนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการรวมการวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาสการดำเนินงานของบริษัทตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ รวมถึงการพิจารณาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจเข้าไปในทุกด้านของการดำเนินงานของบริษัท
❇️ทำให้ผู้บริหารตัดสินใจในการลงทุนส่งเสริมความสามารถในการดำรงอยู่และความสำเร็จในระยะยาวได้ถูกต้อง เหมาะสม รวมทั้งเสริมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันผ่านนวัตกรรมและความแตกต่าง ขับเคลื่อนการประหยัดต้นทุนโดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มชื่อเสียงของแบรนด์และความภักดีของลูกค้า ดึงดูดการลงทุนโดยการตอบสนองเกณฑ์ ESG และสร้างความยืดหยุ่นต่อความท้าทายในอนาคต ด้วยการนำแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ในธุรกิจ รวมทั้งไม่เพียงแต่ลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีส่วนร่วมในเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเติบโตและความยั่งยืนที่ยืนยาว
❇️นอกจากนี้การที่บริษัทสามารถกำหนดห่วงโซ่ธุรกิจที่เหมาะสมกับบริบทองค์กร และมีการปรับเปลี่ยนตามผลกระทบทั้งภายนอกภายใน จะทำให้เป็นจุดเริ่มต้นในการวิเคราะห์การดำเนินต่างๆ ให้แม่นยำเพิ่มขึ้น
❇️เช่น บริษัทจะทราบว่ามีผู้มีส่วนได้เสียที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ และกระบวนการต่างๆ มีการทำวิเคราะห์ผลกระทบเช่น การปล่อยก๊าซเรือนการจกที่กิจกรรมใด หรือการดำเนินกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence) ห่วงโซ่คุณค่าที่เหมาะสมจะทำให้ กระบวนอื่นๆ ที่ตามมามีความสอดคล้องกับการดำเนินงานมากที่สุด ไม่ได้เอาแค่ทฤษฎีมาใช้
👉ทำอย่างไรให้เรื่องที่พูดไว้ในรายการ CSR Talk & CSR Story ได้เกิด Impact ที่นำไปสู่ความยั่งยืนได้ต่อไป?
❇️เพื่อให้ห่วงโซ่คุณค่ามีผลกระทบที่นำไปสู่ความยั่งยืนต่อไป ควรเริ่มต้นจากการสำรวจกิจกรรมต่างๆที่บริษัทดำเนินการจริง เช่น บริษัทที่มีกลยุทธ์ Customer Centric มีกิจกรรมที่การวิเคราะห์ความต้องการลูกค้าเป็นสำคัญในการดำเนินงาน จึงต้องมีกิจกรรม Business Development มาก่อนกิจกรรมการจัดซื้อจัดหา
❇️เพราะในกิจกรรมการพัฒนาธุรกิจอาจรวมตั้งแต่การวิเคราะห์ลูกค้า การตลาด นวัตกรรม ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าตามกลยุทธ์ และกิจกรรมกระบวนการจัดหาจะได้จัดหาวัตถุดิบที่ตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ถูกต้อง แล้วจึงไปผลิตที่จะหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ผลิต ไปที่การขายก็จะทำการหาจุดขายที่เจาะใจลูกค้า ไปจัดส่งด้วยวิธีการและบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและประหยัดต้นทุน และการจัดจำหน่ายในช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และปิดท้ายปลายน้ำด้วยการบริการเทคนิคติดตั้ง ใช้งาน และกระบวนการอื่นๆ ที่ติดต่อตรงกับลูกค้าผู้บริโภค ที่จะทำให้เกิดความแตกต่างด้วยบริการ และเป็นจุดตัดสินใจในการเลือกซื้อ เช่น การบริการทดลองขับรถไฟฟ้า พร้อม Expert ในการแนะนำการขับ จนเข้าใจการขับที่ถูกต้องปลอดภัย ไม่ใช่การขายรถอย่างเดียว
❇️จะเห็นได้ว่าถ้าบริษัทกำหนดได้ถูกต้องจะทำให้เกิดความต่อเนื่องสัมพันธ์สนับสนุนให้เกิดคุณค่าเพิ่มทุกกระบวนการในห่วงโซ่คุณค่า สามารถวัดประสิทธิภาพได้จากการพิจารณาการลงทุนในกระบวนการ และผลลัพธ์ที่ได้ หรือผลกระทบที่เกิด โอกาสและความเสี่ยงที่มี จะทำให้บริษัทสามารถพิจารณาปรับปรุงกระบวนการได้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน โดย คุณพันธ์สิริ สุตเธียรกุล ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
# 100 บุคคล 100 เรื่องเล่า
# CSR TALK & CSR STORY
# CSR House Connect for Sharing Sustain Together
# เชื่อมต่อเพื่อแบ่งปัน อย่างยั่งยืนร่วมกัน
# line @csrhouse https://lin.ee/3mE4bBl
# facebook : CSR House https://www.facebook.com/CSRHouse?mibextid=LQQJ4d
# E-mail : Info@sustainablecsrhub.com
Коментарі